Adverb Clause ตอนที่ 2
3) Adverb Clause of Time (วิเศษณานุประโยคบอกเวลา) ได้แก่ Clause ซึ่งไปทำหน้าที่ขยายกริยา เพื่อบอกให้ทราบว่า การกระทำนั้นได้กระทำเมื่อไร และลักษณะของ Adverb Clause of Time มักจะขึ้นต้นประโยคของมันด้วย Subordinate Conjunction ต่อไปนี้คือ
When เมื่อ, เมื่อเวลาที่
As เมื่อ, ในขณะที่
While เมื่อ, ในขณะที่
Since ตั้งแต่
before ก่อนที่
till จนกระทั่ง
after หลังจาก, ภายหลัง
until จนกระทั่ง
whenever ทุกครั้งที่, ทุกเมื่อที่
as soon as ในทันทีที่, พอ....ก็....
as long as ตราบเท่าที่, นานเท่าที่
so long as นานเท่าที่, ตราบเท่าที่
all the time (that) ตลอดเวลาที่
by the time (that) ณ เวลาที่
เช่น
When he saw us, he ran away.
เมื่อเขาเห็นเรา เขาก็วิ่งหนีไป
(when he saw us เป็น Adverb Clause บอกเวลา มาทำหน้าที่ขยายกริยา ran เพื่อบอกให้ทราบว่าเขาวิ่งหนีไปเมื่อไร)
I knew him well while I was in London.
ผมรู้จักเขาดี เมื่อตอนที่ผมอยู่ลอนดอน
(while I was in London เป็น Adverb Clause บอกเวลาไปทำหน้าที่ขยายกริยา knew เพื่อบอกให้รู้ว่ารู้จักเขาเมื่อไร)
The thief was caught as he was getting off a taxi.
ขโมยถูกจับได้ในขณะที่กำลังจะลงจากแท็กซี่
(as he was getting off a taxi เป็น Adverb clause บอกเวลาไปทำหน้าที่ขยายกริยา caught เพื่อบอกให้ทราบว่า ขโมยถูกจับเมื่อไร)
อนึ่ง ประโยคที่พิมพ์ด้วยตัวดำต่อไปนี้ เป็น Adverb Clause บอกเวลา ไปขยายกริยาในประโยคหลักโดยเหตุผลเดียวกันได้แก่
I have been here since the sun rose.
ผมได้มาที่นี่ตั้งแต่ดวงอาทิตย์ขึ้น
She will live here till (หรือ until) the last day comes.
หล่อนจะอยู่ที่นี่ไปจนกว่าวันสุดทายจะมาถึง
We talk of old times whenever we meet.
เราพูดถึงอดีตเก่าๆ ทุกครั้งที่เราพบกัน
He had died before the doctor arrived.
เขาตายก่อนที่หมอจะมาถึง
I was born after the Second World War had ended.
ผมเกิดภายหลังที่สงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงแล้ว
As soon as the bell rings, the boys will go home.
เมื่อระฆังดังขึ้นเด็กๆ จะได้กลับบ้าน
I didn’t see you as long as I was in Bangkok.
ผมไม่เห็นคุณเลยตราบเท่าที่ผมอยู่กรุงเทพฯ
So long as he is alive, no one can harm him.
เขามีชีวิตยืนนานเหลือเกิน (เพราะ) ไม่มีผู้ใดทำอันตรายเขาได้
I was unhappy all the time (that) I lived with her.
ผมไม่มีความสุขตลอดเวลาที่ผมอยู่กับเธอมา
He will be watering in the garden by the tie (that) I reach at his home.
เขาจะกำลังรดน้ำ (ดอกไม้) อยู่ในสวน เมื่อตอนเวลาที่ผมไปถึงบ้านของเขา
3) Adverb Clause of Time (วิเศษณานุประโยคบอกเวลา) ได้แก่ Clause ซึ่งไปทำหน้าที่ขยายกริยา เพื่อบอกให้ทราบว่า การกระทำนั้นได้กระทำเมื่อไร และลักษณะของ Adverb Clause of Time มักจะขึ้นต้นประโยคของมันด้วย Subordinate Conjunction ต่อไปนี้คือ
When เมื่อ, เมื่อเวลาที่
As เมื่อ, ในขณะที่
While เมื่อ, ในขณะที่
Since ตั้งแต่
before ก่อนที่
till จนกระทั่ง
after หลังจาก, ภายหลัง
until จนกระทั่ง
whenever ทุกครั้งที่, ทุกเมื่อที่
as soon as ในทันทีที่, พอ....ก็....
as long as ตราบเท่าที่, นานเท่าที่
so long as นานเท่าที่, ตราบเท่าที่
all the time (that) ตลอดเวลาที่
by the time (that) ณ เวลาที่
เช่น
When he saw us, he ran away.
เมื่อเขาเห็นเรา เขาก็วิ่งหนีไป
(when he saw us เป็น Adverb Clause บอกเวลา มาทำหน้าที่ขยายกริยา ran เพื่อบอกให้ทราบว่าเขาวิ่งหนีไปเมื่อไร)
I knew him well while I was in London.
ผมรู้จักเขาดี เมื่อตอนที่ผมอยู่ลอนดอน
(while I was in London เป็น Adverb Clause บอกเวลาไปทำหน้าที่ขยายกริยา knew เพื่อบอกให้รู้ว่ารู้จักเขาเมื่อไร)
The thief was caught as he was getting off a taxi.
ขโมยถูกจับได้ในขณะที่กำลังจะลงจากแท็กซี่
(as he was getting off a taxi เป็น Adverb clause บอกเวลาไปทำหน้าที่ขยายกริยา caught เพื่อบอกให้ทราบว่า ขโมยถูกจับเมื่อไร)
อนึ่ง ประโยคที่พิมพ์ด้วยตัวดำต่อไปนี้ เป็น Adverb Clause บอกเวลา ไปขยายกริยาในประโยคหลักโดยเหตุผลเดียวกันได้แก่
I have been here since the sun rose.
ผมได้มาที่นี่ตั้งแต่ดวงอาทิตย์ขึ้น
She will live here till (หรือ until) the last day comes.
หล่อนจะอยู่ที่นี่ไปจนกว่าวันสุดทายจะมาถึง
We talk of old times whenever we meet.
เราพูดถึงอดีตเก่าๆ ทุกครั้งที่เราพบกัน
He had died before the doctor arrived.
เขาตายก่อนที่หมอจะมาถึง
I was born after the Second World War had ended.
ผมเกิดภายหลังที่สงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงแล้ว
As soon as the bell rings, the boys will go home.
เมื่อระฆังดังขึ้นเด็กๆ จะได้กลับบ้าน
I didn’t see you as long as I was in Bangkok.
ผมไม่เห็นคุณเลยตราบเท่าที่ผมอยู่กรุงเทพฯ
So long as he is alive, no one can harm him.
เขามีชีวิตยืนนานเหลือเกิน (เพราะ) ไม่มีผู้ใดทำอันตรายเขาได้
I was unhappy all the time (that) I lived with her.
ผมไม่มีความสุขตลอดเวลาที่ผมอยู่กับเธอมา
He will be watering in the garden by the tie (that) I reach at his home.
เขาจะกำลังรดน้ำ (ดอกไม้) อยู่ในสวน เมื่อตอนเวลาที่ผมไปถึงบ้านของเขา