เรียนภาษาอังกฤษ ผ่าน ศัพท์ช่างเทคนิคสถาปัตยกรรมและช่างก่อสร้าง ตอนที่ 20

เรียนภาษาอังกฤษ ผ่าน ศัพท์ช่างเทคนิคสถาปัตยกรรมและช่างก่อสร้าง ตอนที่ 20
Graphic arts ศิลปะที่เกี่ยวกับเส้น

Grass-paper, grasscloth กระดาษปิดฝาผนัง มีกาวทาติดไว้

เรียบร้อยแล้ว ทำจากฟางข้าว เป็นงานของพวกจีน ประมาณ 2000 ปี

มาแล้วเราเรียกว่ากระดาษสา

Gravel concrete คอนกรีตที่ผสมด้วยกรวดแทนหิน

Gravel walk ทางเดินกรวด

Graveyard หลุมฝังศพ ป่าช้า

Green สีเขียว

Greenhouse เรือนกระจกสำหรับปลูกต้นไม้ในฤดูหนาว

Green wood ท่อนไม้ที่ยังไม่แห้ง ท่อนซุงที่ตัดลงใหม่ๆ

Grey สีเทา

Greyish ค่อนข้างเทา

Grid ตะแกรง ตารางสี่เหลี่ยม

Gridelin สีม่วงอ่อน

Griffin รปสัตว์ในเทพนิยาย ใช้ในงานตกแต่ง

สมัยจอร์เจียนตอนต้น

Grinding machine เครื่องบดลับ เครื่องขัดหรือถูพื้น

Grizzled สีเทา

Groin เส้นโค้งตัดกัน

Groove ร่อง เซาะร่อง

Ground พุกไม้ฝังในผนัง

Grotesque เสาหรือแผ่นฝาผนังชนิดหนึ่งบนคานเหนือ

ออกมาจากผนัง มีลวดลายหลากชนิด เช่น ไม้เลื้อยเป็นเถา

ใบปาล์ม กาน้ำ แจกัน รูปสัตว์พิสดาร รูปแบบเหล่านี้มีแหล่ง

มาจากงานคลาสสิคและได้ทำเลียนแบบและมีการพัฒนาขึ้น

ในสมัยเรเนซองส์

Grotto ถ้ำ, คูหา

Ground-floor ชั้นล่าง ชั้นระดับพื้นดิน

Grout ซีเมนต์ผสมพอเหลวใช้ฉาบหรือยารอยต่อกำแพง

Guest-house เรือนรับรอง เรือนพักแขก

Gules สีแดง

Gurlet ขวาน

Gusset แผ่นเหล็กหรือไม้ซึ่งมักเป็นรูป 3 เหลี่ยม

ใช้ต่อหรือประกับชิ้นส่วนเข้าด้วยกัน

Gutter รางน้ำที่ชายคา, ท่อข้างถนน, ร่อง

Gutter bracket เหล็กยึดรางน้ำแขวนติดใต้ชายคา

Gymnasium โรงพลศึกษา

Gypsum ปูนพลาสเตอร์ชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า Plaster of paris

เรียนภาษาอังกฤษ ผ่าน ศัพท์ช่างเทคนิคสถาปัตยกรรมและช่างก่อสร้าง ตอนที่ 19

เรียนภาษาอังกฤษ ผ่าน ศัพท์ช่างเทคนิคสถาปัตยกรรมและช่างก่อสร้าง ตอนที่ 19

Earthenware เครื่องปั้นดินเผา, ภาชนะที่ทำด้วยดินเผา

Easel ขาหยั่งตั้งรูปเขียน

Easement ส่วนโค้งบนราวลูกกรง สำหรับมือจับ

Eastern closet ส้วมแบบนั่งยองๆ

Easy-chair เก้าอี้นั่งสบาย เก้าอี้นวม

Eave-board เชิงกลอนหรือเชิงชายติดรอบชายคา

Eaves ชายคา เชิงชาย

Eaves trough รางน้ำติดชายคา

Ebonize ย้อมหรือทำให้ไม้มีสีดำเหมือนสีไม้มะเกลือ

Echo เสียงสะท้อน

Edged tools เครื่องมือมีคนที่ใช้ในการช่าง เช่น มีด สิ่ว

Edging trowel เกรียงถือปูนรูปสามเหลี่ยม สำหับใช้โบกปูน

Edifice ตึกรามใหญ่โต คฤหาสน์

Effigy รูปปั้น

Efforescence ละอองสีขาวหม่น เกิดขึ้นบนผนังตึกลักษณะคล้ายขี้เกลือ

Elasticity ความยืดหยุ่น

Elbow chair เก้าอี้มีเท้าแขน

Electrical drill สว่านไฟฟ้า

Electrician ช่างไฟฟ้า

Electrolier โคมระย้าไฟฟ้า แขวนเพดาน

Element ส่วนประกอบ

Element of construction ส่วนมูลของสิ่งก่อสร้าง ส่วนของ

อาคารหรือโครงสร้าง ซึ่งมีหน้าที่ของมันเองเป็นเอกลักษณ์ เช่น พื้น

เสา หลังคา ผนัง เป็นต้น

Elevation รูปด้านตั้ง

Elevator ลิฟท์

Ell สิ่งเสริมต่อเติม หรือทำเป็นปีกยื่นเป็นเหลี่ยมหรือมุมของตึกใหญ่ๆ

เรียนภาษาอังกฤษ ผ่าน ศัพท์ช่างเทคนิคสถาปัตยกรรมและช่างก่อสร้าง ตอนที่ 18

เรียนภาษาอังกฤษ ผ่าน ศัพท์ช่างเทคนิคสถาปัตยกรรมและช่างก่อสร้าง ตอนที่ 18

Dectour ทางเบี่ยง ทางอ้อม

Diagonal เส้นทแยง

Diagonal pliers คีมปากทแยง

Diagram แผนผัง

Diameter เส้นผ่านศูนย์กลาง

Diamond mesh ลวดตาข่าย

Diaper work ลักษณะการประดับหรือตกแต่งพื้น

ผิวในงานศิลปะ และสถาปัตยกรรมเป็นลายสี่เหลี่ยมและวงกลม

diastyle การจัดระยะระหว่างเสาถึงเสาห่างเท่ากับ

3 เท่าของเส้นผ่านศูนย์กลางของเสา

Dimension ขนาดกว้างยาว, ระยะ

Dinging การฉาบปูนบนผนังอย่างหยาบๆ เพียงชั้นเดียว

Dining room ห้องรับประทานอาหาร

Dinner wagon โต๊ะวางอาหารเคลื่อนที่ได้โดยล้อเล็กๆ ติดที่ขา

Dinner table, (dining table) โต๊ะรับประทานอาหาร

Direct dyes สีย้อมซึ่งไม่ต้องมีส่วนผสมของวัตถุที่ช่วยให้สีติด

Disappearing stair, Folding stair บันไดแขวนที่ชักขึ้นลงได้แบบบันได

เรือบินหรือบันไดที่ติดไว้หลังบานประตู

Disc foot ปลายขาโต๊ะเก้าอี้ที่มีลักษณะคล้ายจานแบนๆ

Discolour สีหมดไป

Discolourate สีตกไป

Discurtain เปิดม่าน

Dish จาน, ชาม

dish washer ที่ล้างชาม อ่างล้างจานชาม

Dished seat พื้นเก้าอี้ต่ำลงจากขอบเก้าอี้แล้วใช้

เบาะรองนั่งวางบนพื้นอีกที

Dispensary ร้านขายยา

Distemper สีที่ผสมกับกาวหรือวัตถุใช้แทนกาวและผสมน้ำ

Distort ภาพที่เพี้ยนจากของจริง บิดไป ยืดออก

เรียนภาษาอังกฤษ ผ่าน ศัพท์ช่างเทคนิคสถาปัตยกรรมและช่างก่อสร้าง ตอนที่ 17

เรียนภาษาอังกฤษ ผ่าน ศัพท์ช่างเทคนิคสถาปัตยกรรมและช่างก่อสร้าง ตอนที่ 17

Kirk โบสถ์ฝรั่ง

Kit หีบเครื่องมือ

Kitchen ครัว

Kitchen cabinet ตู้กับข้าว ตู้เก็บของในครัว

Kitchen garden สวนครัว

Kitchenette ครัวเล็กๆ

Kite winder ชั้นบันไดลูกนอน เป็นรูปสามเหลี่ยม

Knee ส่วนที่โค้งยื่นล้ำออกมาของขาโต๊ะหรือเก้าอี้

Knee brace ค้ำยันช่วยในโครงหลังคา

Knee-joint มุมต่อ งอได้เหมือนหัวเข่า

Knob ลูกบิดประตู ปุ่มลูกบิดตู้หรือโต๊ะ

Knob rose แผ่นจานกลมหรือแป้นกลมแบนรองรับลูกบิดประตู

Knob turning การกลึงให้เหมือนหรือคล้ายลูกบิดใช้เป็นแบบตกแต่งแบบหนึ่ง

Knocked down ส่วนประกอบที่ถอดออก และประกอบเข้าได้ทีหลัง

Knocker เครื่องประดับบานประตู ทำด้วยทองเหลืองหรือโลหะอื่นๆ

มีบานพับติดอยู่เพื่อจะได้ยกแผ่นหรือห่วงทองเหลืองนี้ขึ้นเคาะกับบานประตู

Knoll เนินดิน

Knot ปุ่มไม้ ตาไม้

Knot garden สวนเล็กๆที่จัดไว้ในรูปทรงเรขาคณิต

ตัดต้นไม้เป็นรูปทรง และจัดสีตัดกันของใบไม้

Knot work ลวดลายแกะสลัก เป็นวงโค้งประสานกัน

Knuckle bend โค้งที่มีรัสมีสั้นๆ

Knur} knurl ตุ่ม ปุ่มในไม้

Krater (gr.) แจกันใบใหญ่ปากกว้าง สำหรับใส่ไวน์

หรือช่อดอกไม้ มีมาแต่สมัยคลาสสิค

K-truss โครงถักเป็นรูปตัว K

Kylix (gr.) หม้อน้ำหรือถ้วน้ำ 2 หู ขนาดใหญ่

ลักษณะขาหยั่งสูงๆ มีมาแต่สมัย คลาสสิคโรมัน

เรียนภาษาอังกฤษ ผ่าน ศัพท์ช่างเทคนิคสถาปัตยกรรมและช่างก่อสร้าง ตอนที่ 16

เรียนภาษาอังกฤษ ผ่าน ศัพท์ช่างเทคนิคสถาปัตยกรรมและช่างก่อสร้าง ตอนที่ 16

Foundation ฐานรากของตึกหรือกำแพง อยู่ใต้ดิน

Foundry โรงหล่อ

Four-poster bed เตียงนอนที่มีเสาสูงขึ้นไป 4 เสา ขึ้น

ไปรับเพดานเตียง ใช้กันมากในกลางศตวรรษที่ 18

Foyer โถงทางเข้า ห้องโล่างระหว่างล็อบบี้ กับห้องประชุม

Frame กรอบ โครงประตูหน้าต่าง, ไม้ค้ำ หรือ โครงรับหลังคา

Free stone หินเนื้อละเอียดเหมาะแก่การแกะสลัก

French bed เตียงนอนเล่น มีปลายข้างหนึ่งม้วน

เป็นขด ลักษณะเหมือนเก้าอี้ยาว

French chair เก้าอี้แบบคาโรลีน พนักสูง เริ่มมีใช้

ตั้งแต่ ค.ศ. 1660 ต่อมาชิปเปนเดลได้ออกแบบเก้าอี้นี้ไว้ถึง 8 แบบ ด้วยกัน

ที่นั่งและที่เท้าแขนมีบุนวมด้วย

French curve แผ่นแบบเจาะลายโค้งหลายขนาดใช้เขียนเส้นโค้ง

French grey สีเทา ได้จากส่วนผสมของสีดำ แดง และน้ำเงิน

French window บานประตูกระจก ทำแบบหน้าต่าง เดินผ่านเข้าออกได้

Fresco การเขียนภาพสีบนผนังซีเมนต์ที่ยังเปียกชื้น

Fresh-air inlet ท่อหรือทางรับอากาศบริสุทธิ์เหนือหลังคาบ้าน

Fret ลวดลายประดับตามขอบเพดาน

ภายในบ้าน, ลวดลายฉลุ

Fretsaw เลื่อยฉลุสำหรับฉลุลาย

Fretsaw blade ใบเลื่อยฉลุลาย ใบเล็กบางมาก

Fretsaw frame กงเลื่อยฉลุ

Fretwork ไม้สลักลวลลาย ไม้ฉลุลวดลาย

Friction การเสียดสีระหว่างผิววัตถุ, ความฝืด

Frieze ช่วงกลางระหว่าง Entablature กับ Cornice ซึ่งเป็น

ส่วนหนึ่งของคานหัวเสาแบบคลาสสิค

Function หน้าที่ใช้สอย

Fundamental กฏเกี่ยวกับมูลฐาน หลักสำคัญ

Fumish จัดหาเครื่องเรือนตกแต่ง

Furniture เครื่องตกแต่งบ้าน, สำนักงาน เช่น ตู้โต๊ะ เก้าอี้ ฯลฯ

เรียนภาษาอังกฤษ ผ่าน ศัพท์ช่างเทคนิคสถาปัตยกรรมและช่างก่อสร้าง ตอนที่ 15

เรียนภาษาอังกฤษ ผ่าน ศัพท์ช่างเทคนิคสถาปัตยกรรมและช่างก่อสร้าง ตอนที่ 15

Dividers วงเวียนสำหรับวัดระยะ

Dock อู่ต่อเรือ ท่าเรือ

Dodecagon รูปสิบสองเหลี่ยม

Dodecastyle ระเบียงที่มีหลังคามีเสารับเรียงราย 12 ต้น

อยู่ด้านหน้าของอาคารสมัยคลาสสิค

Dogs เครื่องมือจับยึดเช่นคีม

Dog-leg staircase บันไดขึ้นสองทอดโดยวกกลับที่ชาน

พัก ลักษณะคล้ายขาหลังของสุนัข

Dolmen อนุสาวรีย์หินก่อนสมัยประวัติศาสตร์

Dome หลังคารูปโค้งกลม เรียกกันว่าโดม

Dome-light โคมไฟฟ้า รูปหรือฐานกลม

Dome-nut นอตสลักเกลียวหัวกลม

Donjon หอคอยสูง

Door ประตู

Door check เครื่องบังคับบานประตูให้ปิดลงได้อย่างช้า ๆ และแนบสนิท

Door frame กรอบประตู วงกบประตู

Door furniture เครื่องแต่งประตู นอกเหนือจากกลอนและบานพับ

Door hasp สายู หูจับประตู

Door holder ลูกบิด หรือหูจับประตู

Door plate แผ่นป้ายบอกชื่อที่ประตู

Door sill ธรณีประตู

Door-step ขั้นบันไดลงสู่พื้นดิน

Door way ช่องเปิดสู่บันได ช่องประตู

Doric order แบบเสาคลาสสิคแบบหนึ่งในสมัยกรีก

Dormer window ซุ้มหน้าต่างยื่นบนหลังคา

Dormitory ห้องนอนโถงอยู่รวมๆกัน, หอพักนอน

เรียนภาษาอังกฤษ ผ่าน ศัพท์ช่างเทคนิคสถาปัตยกรรมและช่างก่อสร้าง ตอนที่ 14

เรียนภาษาอังกฤษ ผ่าน ศัพท์ช่างเทคนิคสถาปัตยกรรมและช่างก่อสร้าง ตอนที่ 14

Hall ห้องโถงใหญ่, ห้องแรกถึง, ศาลา, หอ

Hall chair เก้าอี้ไม้ นั่งไม่ใคร่สบายนัก เริ่มใช้

กันในศตวรรษที่ 18 ตั้งไว้ในห้องโถงหรือระเบียง

เพื่อให้คนรับใช้นั่งคอยรับคำสั่งจากนาย ตกแต่งด้วยการ

ทาสี หรือแกะสลัก หรือ มีตราประจำตระกูลติดที่หลังพนักด้วย

Hallway ทางเดินผ่านหน้าห้องโถงตอนหน้าตึก

Hamlet หมู่บ้านเล็กๆ

Hammer handle ด้ามค้อน

Hand book หนังสือคู่มือ (สำหรับช่าง)

Hand-loom เครื่องทอผ้า หูกทอผ้าด้วยมือ

Hand rail ราวบันไดที่สำหรับมือจับ

Hand rail wreath ส่วนโค้งของราวบันได

Handsaw เลื่อยชนิดมีมือจับด้านหนึ่ง, เลื่อยมือ

Hand tools เครื่องมือช่างชนิดใช้ด้วยมือ

Hand vise ปากกาจับยึดขนาดเล็ก ๆ ใช้มือถือทำงานเบาๆ

Hangar โรงเก็บหรือซ่อมเครื่องบิน

Hangings ม่านแขวน

Hanging stairs บันไดหินโผล่ออกมาจากผนัง ด้านหนึ่งว่าง

Harbour ท่าเรือ

Hard-board ไม้อัดเป็นแผ่นแข็ง ใช้เป็นวัสดุก่อสร้าง

Hardware เครื่องเหล็ก, เครื่องโลหะ

Hard wood ไม้เนื้อแข็ง เนื้อละเอียดมี น.น. มาก

Harrow คราด

Hasp สายยูประตู

Hassock เบาะนั่งหุ้มนวม ตัวอ้วนๆ ใช้เป็นม้านั่ง มีทั้งรูปทรงกระบอก หรือ

เหลี่ยม ทุกวันนี้ยังใช้กันอยู่

Hatch ช่องในบานประตู

เรียนภาษาอังกฤษ ผ่าน ศัพท์ช่างเทคนิคสถาปัตยกรรมและช่างก่อสร้าง ตอนที่ 13

เรียนภาษาอังกฤษ ผ่าน ศัพท์ช่างเทคนิคสถาปัตยกรรมและช่างก่อสร้าง ตอนที่ 13

Living-room ห้องพักผ่อน ห้องรับแขก

Lobby ห้องกลาง,ห้องโถง,ห้องพักแขก

ห้องร่วมซึ่งเปิดผ่านไปมาได้

Location ทำเล ที่ตั้ง

Lodge หอ บ้านเล็กข้างประตูรั้ว

Lodging house ห้องสำหรับให้เช่าพัก หอพัก

Loft ห้องเพดาน เนื้อที่เก็บของบนเพดานใต้หลังคา

ระเบียงสูงข้างในห้องโถง

Log-cabin กระท่อมซุง

Loggia พะไลใน, เนื้อที่ซึ่งทำเป็นเพิงโถงเปิดโล่ง

ด้านเดียวหรือหลายด้านอยู่ในตัวอาคาร ใช้นั่งหรือเดินเล่น,

เฉลียง

longitude เส้นแวง เส้นยาวจากขั้วโลกเหนือ

ผ่านเส้นศูนย์สูตรมาจดขั้วโลกใต้

Longitudinal section รูปตัดตามยาว

Long plane กบบรรทัด กบยาวไสพื้น

Loop-hole ช่องแสงเป็นวงกลม

Loose cover ผ้าคลุมเบาะ ถอดออกได้

Louis XVI (1774-1793) เครื่องตกแต่งบ้านเรือนแบบฝรั่งเศส

ใช้ไม้สีอ่อนๆ นำมาสลักเป็นลวดลายหรือเกาะฝังลายทอง

Lounge ห้องนั่งเล่นในโรงแรมหรือสโมสร

Louver บานเกล็ด เกล็ดบานประตูหน้าต่างซ้อนเหลื่อม

Louver sheet บานเกล็ด

Love seat เก้าอี้ยาวนั่งได้เฉพาะ 2 คน เป็น

เครื่องเรือนสมัยคาร์โรลีน (1660-1685) ถ้าทำไขว้เป็นรูปตัว S นั่ง

ตะแคงเข้าหากันเรียกว่า S chair เป็นอนุสรณ์ของฝาแฝดอินจัน หรือ

คำฝรั่งเศสเรียกว่า Tete-a-tete

หมายถึงการสนทนาแบบตัวต่อัว หรือบางที่เรียก vis-a-vis หมายถึง

นั่งตรงข้าม ทั้งหมดมีความหมายว่า นั่งสนทนาทั้งสิ้น

Lowboy โต๊ะเครื่องแป้ง โต๊ะลิ้นชักแบบอังกฤษ มีลิ้นชักหลายชิ้นชักสูง

ไม่เกิน 48 นิ้ว

Lozenge ลวดลายประดับเป็นลายสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด

Lumber ไม้แปรรูป ไม้ที่เลื่อยเป็นท่อนๆแล้ว

Luminous pain สีพรายน้ำ สีซึ่งมีแสงสว่าง

Lustrous แสงเหลือบเป็นเงาวาว

เรียนภาษาอังกฤษ ผ่าน ศัพท์ช่างเทคนิคสถาปัตยกรรมและช่างก่อสร้าง ตอนที่ 12

เรียนภาษาอังกฤษ ผ่าน ศัพท์ช่างเทคนิคสถาปัตยกรรมและช่างก่อสร้าง ตอนที่ 12

Hatch way ช่องทางขึ้นไปบนเพดาน

Hatchet เครื่องมือชนิดหนึ่งมีด้ามไม้ ด้านหนึ่งใช้ตัด

ด้านหนึ่งใช้เป็นค้อนมีบากเล็กน้อยใช้ถอนตะปู

Hazardous area บริเวณที่เป็นอันตรายได้ง่าย เช่น

บริเวณเก็บแก๊สหรือเชื้อเพลิง

Headboard แผ่นกระดานที่ประกอบอยู่บนด้านหัวเตียงนอน

Header ก่ออิฐโดยให้หัวอิฐอยู่ด้านหน้า

Head room ช่องว่างเหนือศีรษะระหว่างบันไดกับเพดาน

Heart shake รอยแตกเป็นรัศมีของไม้ มักเกิดจากการผึ่งไม่ถูกวิธี

Hearth พื้นหรือบริเวณใกล้เตาไฟ ใช้วัสดุทนไฟ เช่น อิฐ หินเตาผิง

Hearth rug พรมหน้าเตาไฟหรือเตาผิง

Heartwood บริเวณใจกลางไม้ มีเนื้อแข็งและสีเข็ม แก่นไม้

Heck สลักกลอนประตู

Hedge รั้วตันไม้

Hedge row รั้วต้นไม้เตี้ยๆ

Hedge shears กรรไกรตัดพุ่มไม้ที่รั้ว

Heel ส่วนปลายของไม้จันทันหรือไม้รอดที่วางบนขอบผนัง

Helix วงก้นหอย วงรอบที่ค่อยๆ เวียนเล็กลงทุกที

Hellier คนมุงกระเบื้อง

Helical staircase บันไดเวียน

Hellenistic art ศิลปะแบบเฮเลน ซึ่งหมายถึงศิลปะ

ของกรีก (คำว่า Hellen เป็นชื่อ ของชนชาติกรีก)

Helve ด้ามขวาน

Hemicycle สนามครึ่งวงกลม ห้องที่แบ่งเป็นรูปครึ่งวงกลม

Henna สีแสดทำจากต้นเทียน

Heptagon รูปแบนมีหน้า 7 เหลี่ยม

เรียนภาษาอังกฤษ ผ่าน ศัพท์ช่างเทคนิคสถาปัตยกรรมและช่างก่อสร้าง ตอนที่ 11

เรียนภาษาอังกฤษ ผ่าน ศัพท์ช่างเทคนิคสถาปัตยกรรมและช่างก่อสร้าง ตอนที่ 11

Fabric เนื้อผ้า, โครงตึก

Facade ด้านหน้าของตึกหรืออาคาร

Face brick อิฐดีใช้ก่อกำแพงด้านหน้า อิฐฉาบหน้า

Face hammer ค้อนแต่งผิวหน้าอิฐหยาบ ปลายข้างหนึ่งแบนทื่อ

ปลายข้างหนึ่งมีคมตัด

Face mark เครื่องหมายทำไว้บนผิวของไม้

Facia ป้ายหน้าร้าน แผ่นป้ายติดหน้าปัดภายในรถ

Factor of safety อัตรากำหนดที่เผื่อไว้เพื่อความปลอดภัย

Factory โรงงาน

Fade resistant colour สีทนแดดทนแสง ไม่ตกไม่เลือนง่าย

Faience เครื่องดินเผาเคลือบลงสีต่างๆ ใช้ทำเครื่องประดับชั้นสูง,

หินเคลือบด้วยวิธีป่นผสมกับทราย กรรมวิธีผสมเหมือนทำแก้วใช้ในสมัย

อียิปต์

Failure ความล้มเหลว

Fall-front ผนังตู้เปิดลดลงมาใช้เขียนหนังสือได้

Fallow สีน้ำตาลอมเหลือง

Family room ห้องพักผ่อน ห้องสำหรับนั่งเล่นในครอบครัว

False work โครงสร้างชั่วคราว เช่น นั่งร้าน

Fanligt ช่องแสงเหนือประตู ทำเป็นรูปพัดคลี่

Farmhouse โรงนา

Farmyard ลานหน้าหรือติดกับโรงนา

Fascia board ไม้ปิดปลายจันทัน เชิงชาย

Fastener เครื่องผูกยึด

Faucet ก๊อกน้ำ

Faun รูปสลักครึ่งสัตว์ครึ่งคนในเทพนิยาย

ส่วนหนึ่งเป็นแพะส่วนหนึ่งเป็นคน

Apprenticeship

Apprenticeship ระบบการฝึกงานอาชีพ ซึ่งผู้เข้ารับการฝึกต้องทำงานให้นายจ้างเป็นเวลาเท่านั้นเท่านี้ปี โดยได้ค่าจ้างต่ำเพื่อแลกกับการฝึกอบรม

Body language

Body language การสื่อสารกับคนอื่นโดยใช้ภาษาทางร่างกาย เช่น ท่าทาง, การเคลื่อนไหวแทนภาษาพูดไม่ว่าจะโดยอย่างตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ

Bona fide occupational qualification (BFOQ)

Bona fide occupational qualification (BFOQ) หลักเกณฑ์การจ้างพนักงานใหม่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับงานและไม่ขัดแย้งกับกฎหมายห้ามกมากีดกันใดๆ

Bonus


Bonus การให้ผลตอบแทนพิเศษแก่พนักงานประจำงวดหกเดือนหรือ 1 ปี โดยพิจารณาจากผลงานของพนักงานและกำไรขององค์กร บางแห่งก็มีประกันล่วงหน้าว่า จะให้โบนัสไม่ต่ำกว่าเท่าไหร่ การให้โบนัส เป็นการให้แรงจูงใจผู้ทำงานที่สำคัญวิธีหนึ่ง แต่ก็มีข้อควรคำนึงอยู่บ้างว่าไม่ควรให้สูงจนบิดเบือนโครงสร้างเงินเดือนหรือทำให้ผู้บริหารที่ต้องการโบนัสมากๆ มุ่งแต่การหากำไรระยะสั้น โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ระยะยาวขององค์กรน้อยกว่าที่ควรเป็น

เรียนภาษาอังกฤษ เรื่อง ความแตกต่างระหว่าง Ability กับ Capacity

เรียนภาษาอังกฤษ เรื่อง ความแตกต่างระหว่าง Ability กับ Capacity

Ability (เออะบิเลอทิ) n. “ความสามารถ ความชำนาญ” ซึ่งเกิดจากการฝึกอบรม ความสามารถ หรือ ความชำนาญประเภทนี้ไม่ได้มีติดตัวมาแต่กำเนิด ตามด้วยบุรพบท to

Michael Jackson has unusual ability to single.

ไมเคิล แจ็คสันมีความสามารถ ไม่ธรรมดาในการร้องเพลง

Khao Sai is the boxer of great ability.

เขาทรายเป็นนักมวย ที่มีความสามารถพิเศษมาก

Capacity (เคอะแพเซอทิ) n. “ความสามารถทางสมอง พลังงานทางสมอง”

ที่มีมาแต่กำเนิดตามด้วยบุรพบท for

Albert Einstein’s capacity for physics is not limited.

ความสามารถในการศึกษาวิชาฟิสิกส์ของ แอลเบิร์ท ไอน์สไตน์ ไม่มีขีดจำกัด

My capacity for chemistry is very limited.

ความสามารถในการเรียนวิชาเคมี ของข้าเจ้า มีน้อยมาก

Capacity n. “ความจุ” ใช้กับวัตถุที่มีปริมาณแห่งความจุ ตามด้วยบุรพบท of

This gasoline tank has a capacity of ten thousand litres.

ถังน้ำมันใบนี้ จุน้ำมันถึงหนึ่งหมื่นลิตร

This auditorium is in a capacity of five hundred audience.

หอประชุมนี้ จุคนฟังถึงห้าร้อยคน

เรียนภาษาอังกฤษ เรื่อง ข้อยกเว้นการใช้ Adjective บางตัวเมื่อไปขยายนาม


เรียนภาษาอังกฤษ เรื่อง ข้อยกเว้นการใช้ Adjective บางตัวเมื่อไปขยายนาม

ทุกๆท่านครับ การใช้ Adjective นำไปขยายนามหรือประกอบนามตามแบบตั้งแต่ 1 ถึง 4 ข้อนั้น หมายถึง Adjective ทั่วไปเท่านั้น แต่ถ้าเป็น Adjective ที่จะกล่าวต่อไปนี้แล้วให้มีวิธีใช้ขยายนามหรือประกอบนามได้เพียงข้อใดข้อหนึ่งเท่านั้นคือ ประกอบหน้านาม หรือ เรียงกริยา จะใช้ทั้ง 2 อย่างตามอำเภอใจไม่ได้ นั่นคือ

1) Adjective ต่อไปนี้เมื่อขยายนาม ให้ใช้แบบเรียงไว้หลังกริยาเท่านั้น ห้ามใช้แบบเรียงไว้หน้านามโดยเด็ดขาด ได้แก่
Sorry
เสียใจ
Afraid
กลัว
Well
อยู่ดีสบาย
Alive
มีชีวิตอยู่
Ashamed
ละอายใจ
Worth
มีค่า
Awake
ตื่นอยู่
ill
ป่วย
Alike
เหมือนกัน
Asleep
หลับ
Aware
ระวัง
Alone
โดยลำพัง
Content
พอใจ
Unable
ไม่สามารถ



เช่น

ถูก : The president is sorry. ประธานาธิบดีมีความเสียใจ

ผิด : This is a sorry president. นี้คือประธานาธิบดีผู้เสียใจ

ถูก : That girl is afraid. เด็กหญิงคนนั้นกลัว

ผิด : This is an afraid girl. นี้คือเด็กหญิงที่กลัว

ถูก : He is well. เขาอยู่ดีสบาย

ผิด : He is a well man. เขาเป็นคนอยู่ดีสบาย

ถูก : Wilai is ashamed. วิไลรู้สึกละอายใจ

ผิด : Wilai is an ashamed girl. วิไลเป็นเด็กหญิงขี้ละอายใจ

(ขอให้ท่านพิจารณาดูคำที่พิมพ์ตัวดำนั้นซิว่า ประเดี๋ยวก็ถูก ประเดี๋ยวก็ผิด เพราะอะไร คิดเท่านั้นที่ทำให้คนเกิดปัญญา อย่าสักแต่อ่านเฉยๆ ไม่ดีนะจ๊ะ)

2) Adjective ต่อไปนี้เมื่อใช้ขยายนามให้เรียงไว้หน้านามโดยตรง ห้ามใช้แบบเรียงหลังกริยาโดยเด็ดขาด ได้แก่
Former
ก่อน
Latter
หลัง
Inner
ภายใน
Outer
ภายนอก
Upper
ข้างบน
Elder
แก่กว่า
Drunken
ขี้เมา
Middle
กลาง
Entire
ทั้งหมด
Wooden
ทำด้วยไม้
Golden
ทำด้วยทอง
Especial
เฉพาะ
Neighboring
เพื่อนบ้าน





ถูก : Burma is a neighboring country.

ผิด : Burma is neighboring.

พม่าเป็นประเทศเพื่อนบ้าน

ถูก : We met a drunken teacher.

พวกเราได้พบครูขี้เมาคนหนึ่ง

ผิด : The teacher was drunken.

ครูคนนั้นเป็นคนขี้เมา

ถูก : Sombat is my elder brother.

สมบัติเป็นพี่ชายของฉัน

ผิด : He is elder.

เขาแก่กว่า (ฉัน)

(elder ข้อแรกถูกเพราะวางหน้านาม elder ข้อหลังผิดเพราะวางหลังกริยา)

3) Adjective ที่ไปขยายสรรพนามผสม (Compound Pronoun) ต่อไปนี้ ให้เรียงไว้ข้างหลังสรรพนามผสมนั้นตลอดไปได้แก่
Someone
Everybody
Anything
Something
Everywhere
No one
Somebody
Everything
Nothing
Somewhere
Anyone
Nowhere
Everyone
Anybody


เช่น

I have something important to tell you.

(อย่าใช้ : I have important something to tell you.

There’s nothing new for us to do.

(อย่าใช้ : There’s new nothing for us to do.)

ไม่มีอะไรใหม่เลยสำหรับเราที่จะทำ

I don’t find anyone tall enough to clean the ceiling.

(อย่าใช้ : I don’t’ find tall anyone enough to clean the ceiling.)

ผมไม่เห็นใครรูปร่างสูงพอที่จะทำความสะอาดเพดานห้องได้เลย

(important, new และ tall เป็นคุณศัพท์ เมื่อขยายสรรพนามผสมต้องเรียงไว้หลังจึงจะถูก หากไปเผลอเอามาเรียงไว้หน้าก็ผิดตามตัวอย่างที่ทำให้ดูนี้ หวังว่าทุกท่านจะเข้าใจน่ะครับ)

4) Adjective ที่แสดงการวัดขนาดต่างๆ ของนาม ต้องวางไว้หลังนามเสมอ เช่น

This river is two hundred miles long. แม่น้ำสายนี้ยาว 200 ไมล์

(อย่าใช้ : This river is long two hundred miles.)

This mountain is five hundred feet high. ภูเขาลูกนี้สูง 500 ฟุต

(อย่าใช้ : This mountain is high five hundred feet.)

Ladda is twenty years old. ลัดดามีอายุ 20 ปี

(อย่าใช้ : Ladda is old twenty years.)

(ขอให้ระวังการนำ Adjective มาใช้ขยายนามที่แสดงการวัด จากตัวอย่างที่ยกให้ดูนี้ควรจำเป็นอุทาหรณ์เอาไว้เพื่อกันใช้อย่างผิดๆถูกๆในภายหน้า)

5) Adjective ตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไป มาขยายนามตัวเดียวกัน จะวางไว้หน้านามนั้นโดยตรงก็ได้ หรือจะวางไว้หลังนามก็ได้ และหน้า Adjective ตัวสุดท้ายต้องมี and มาคั่นไว้เสมอ เช่น

Thongchan is a witty and wise teacher.

หรือ Thongchan is a teacher, witty and wise.

ทองจันทร์เป็นครูที่มีไหวพริบและฉลาด

He bought a new, powerful and expensive car.

หรือ He bought a car new, powerful and expensive.

เขาได้ซื้อรถยนต์คันใหม่มีสมรรถภาพี และราคาแพงมาคันหนึ่ง

(ทุกๆท่านชอบใช้วิธีไหนเลือกได้ตามใจชอบเลยครับ ไม่ขัดข้อง เพราะถือว่าถูกต้องทั้ง 2 แบบเลยครับ)

6) Adjective ที่เป็นสมญานาม ไปขยายนามที่เป็นชื่อเฉพาะ ให้วางไว้หลังนามนั้นเสมอ และเขียนด้วยอักษรตัวใหญ่โดยมี the นำหน้าทุกครั้งด้วย เช่น

King Naresuan, the Great. สมเด็จพระนเรศวรมหาราช

Ivan, the Terrible. อีแวนตัวดุร้าย

Kukrit, the Wise of Siam. คึกฤทธิ์เจ้าปัญญาแห่งสยาม

Hercules, the Strong of the world. เฮอคิวลิสจอมพลังของโลก เป็นต้น

7) ถ้า Adjective นั้น เป็น Adjective Phrase (คุณศัพท์วลี) หรือ AdjectiveClause (คุณานุประโยค) ไปขยายนามใด ให้เรียนงไว้หลังนามนั้นตลอดไป เช่น

The tall man with his dog is my uncle.

ชายสูงที่มีสุนัขมาด้วยนั้นเป็นลุงของฉันเอง

(with his dog เป็น Adjective Phrase มาขยายนาม man จึงวางไว้หลัง)

The boy who is talking with the teacher is her brother.

เด็กชายที่กำลังพูดอยู่กับครูนั้นเป็นน้องชายของเธอ

(who is talking with the teacher เป็น Adjective Clause มาขยายนาม Boy จึงวางไว้หลัง Boy)

8) Adjective ต่อไปนี้ เมื่อไปขยายอยู่หน้านามเอกพจน์นับได้ ให้ใช้ a นำหน้านามนั้นเสียก่อน แล้วจึงวางคุณศัพท์เหล่านี้ขยายอีกทีหนึ่ง ได้แก่ half, such, too, so, quite, rather, many เช่น

He spent half a day on gambling. เขาใช้เวลาเล่นการพนันครึ่งวัน

Such a man cannot be allowed. คนเช่นนั้นไม่สามารถอนุญาตให้ได้

It’s too hard a problem for him. มันเป็นปัญหายากเกินไปสำหรับเขา

He is so good a boy. เขาเป็นเด็กดีทีเดียว

She is quite a good pupil. หล่อนเป็นนักเรียนดีจริงๆ

Jack is rather a lazy boy. แจ็คเป็นเด็กค่อนข้างขี้เกียจ

Many a dog is barking inside the house สุนัขหลายตัวเห่าอยู่ในบ้าน

เรียนภาษาอังกฤษ เรื่อง การใช้ toward, to, into, in, out of, through, from

เรียนภาษาอังกฤษ เรื่อง การใช้ toward, to, into, in, out of, through, from

Toward แปลว่า “ไปยัง, มุ่งไปสู่” แต่ยังไม่ถึง

To แปลว่า “ไปยัง” จะถึงหรือไม่ถึงก็ตาม

Into แปลว่า “เข้าไปข้างใน” มีความหมายบ่งถึง ผ่านจากข้างนอกเข้าไปข้างใน (นิยมใช้กับกริยาที่มีการเคลื่อนที่)

In แปลว่า “ใน” หมายถึงอยู่ข้างใน (นิยมใช้กับกริยาอยู่กับที่)

Out of แปลว่า “ออกไปข้างนอก” หมายถึงการออกจากภายในไปสู่ภายนอก (ใช้กับกริยาที่มีการเคลื่อนที่)

Through แปลว่า “ตลอด” หมายถึง ผ่านจากสิ่งใดสิ่งหนึ่งทะลุออกไป (ใช้กับกริยาที่มีการเคลื่อนที่)

From แปลว่า “จาก” หมายถึงการไปจากที่ใดที่หนึ่ง หรือจากสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

ขอให้นักศึกษาดูแผนผังประกอบการใช้บุรพบทเหล่านี้นะครับ



เรียนภาษาอังกฤษ เรื่อง การใช้ since, for, during กับเวลา

เรียนภาษาอังกฤษ เรื่อง การใช้ since, for, during กับเวลา

Since แปลว่า “ตั้งแต่” เป็นคำที่ใช้บอกจุดเริ่มต้นของเวลา พูดง่ายๆ ก็คือเป็นเวลาที่ไม่มีความยาว หรือบางกรณีอาจบอกจุดของเวลาด้วยรูปเป็นประโยค เช่น

Since 1965 ตั้งแต่ปี 1965

Since August ตั้งแต่เดือนสิงหาคม

Since eight o’clock ตั้งแต่ 8 นาฬิกา

Since yesterday (Sunday etc.) ตั้งแต่เมื่อวานนี้

Since January (February etc.) ตั้งแต่เดือนมกราคม

Since he came back ตั้งแต่เขากลับมา

Since his father died ตั้งแต่บิดาของเขาตาย

For แปลว่า “เป็นเวลา” เป็นคำที่ใช้บอกระยะเวลาที่มีความยาว เช่น

For a week เป็นเวลา 1 สัปดาห์

For a month เป็นเวลา 1 เดือน

For two years เป็นเวลา 2 ปี

For many years เป็นเวลาหลายปี

For six days เป็นเวลา 6 วัน เป็นต้น

ทั้ง since และ for มักนิยมไปใช้ในประโยค Perfect Tense เสมอ เช่น

Amy has lived in Thailand for two years.

เอมี่ได้มาอยู่ประเทศไทยเป็นเวลา 2 ปีแล้ว

Jane has worked here since she came back.

เจนได้ทำงานอยู่ที่นี่ตั้งแต่หล่อนกลับมา

During แปลว่า “ระหว่าง” ใช้กับระยะเวลาที่ต่อเนื่องกัน หลัง During ต้องเป็น Noun หรือ Phrase เท่านั้นเป็นประโยคไม่ได้ เช่น

We went to Bangsaen during the summer holidays.

เราไปเที่ยวบางแสนระหว่างวันหยุดภาคฤดูร้อน

He still stays here during his examination.

เขายังคงพักอยู่ที่นี่ระหว่างการสอบไล่ของเขา

เรียนภาษาอังกฤษ เรื่อง การใช้ In, At กับสถานที่

เรียนภาษาอังกฤษ เรื่อง การใช้ In, At กับสถานที่

In : ใช้กับสถานที่ที่มีลักษณะใหญ่โต เช่น เมือง, จังหวัด, รัฐ, ประเทศ หรือ ทวีป เช่น

In Bangkok, in Paris, in Chiengmai, in China, in Asia, etc.

John has lived in Bangkok for two years.

จอห์นได้มาอาศัยอยู่ที่กรุงเทพเป็นเวลา 2 ปีแล้ว

(อย่าใช้ – lived at Bangkok-)

อนึ่ง ถ้าผู้พูดต้องการหมายถึง “ในภายในของสถานที่แห่งนั้น ๆ โดยมิได้คำนึงถึงความใหญ่โตเป็นหลักสำคัญ” เช่นนี้ จะใช้ in ก็ได้ เช่น

In the house ภายในบ้านหรือในบ้าน

In the office ในที่ทำงาน

In the canal ในลำคลอง เป็นต้น

At : ใช้กับสถานที่ซึ่งเป็นจุดเล็กๆ ไม่ใหญ่โตเท่าไรนัก เช่น หมู่บ้าน, ตำบล, ฯลฯ เช่น

At home, at a village, at Don Muang, at the table, etc. เช่น

They are at home. พวกเขาอยู่ที่บ้าน

I wish to see him at a village.

ผมต้องการไปพบเขาที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง

ข้อสังเกต : ถ้าใช้บ่งบอกบ้านเลขที่ แสดงว่าเป็นจุดเล็ก ใช้ at แต่ถ้าบ่งบ้านเลขที่ บ่งเฉพาะถนนอย่างเดียวให้ใช้ on เช่น

He lives at 135 Sukhumwit Road.

เขาอยู่ที่บ้านเลขที่ 135 ถนนสุขุมวิท

She lives on Charoenkrung Road.

หล่อนอยู่ที่ถนนเจริญกรุง

สุ่มบทความภาษาอังกฤษจากบทความทั้งหมด