Sequence of Tense


Sequence of Tense

ถาม : Sequence of Tense คืออะไร มีหลักเกณฑ์การใช้อย่างไรบ้าง จงอธิบาย

ตอบ : Sequence of Tense คือ “การใช้ Tense ของกริยาในประโยค Subordinate Clause (ประโยคตาม) ให้สอดคล้องกันกับ Tense ของกริยาในประโยคหลัก (Main Clause)” การจะรู้ว่าประโยคไหนเป็นประโยคตามนั้นให้ดูได้ที่คำเชื่อม (Conjunctive) เพราะประโยคตรมจะอยู่หลังคำเชื่อมเสมอ และการใช้กริยาของประโยคตามให้สอดคล้องกับกริยาในประโยคหลักนั้นมีกฎเกณฑ์ดังต่อไปนี้

1)ถ้าประโยค Main Clause เป็น Past ประโยค Subordinate clause ต้องเป็น Past หรือ Future in the Past ตามด้วย เช่น
Main Clause
Subordinate Clause
He told me
เขาบอกผม
That he was hungry.
ว่าเขาหิว
It was settled
เป็นอันตกลงกันแล้ว
That I should do this.
ว่าผมจะทำงานนี้
She asked me
หล่อนถามผม
Whether I had seen her dog.
ว่าผมได้เห็นสุนัขของหล่อนหรือไม่
He died
เขาตาย
Because he was careless.
เพราะเขาขาดความระมัดระวัง (ประมาท)
Daeng said
แดงพูด
(that) he would help me.
ว่าเขาจะช่วยผม
I would do this
ผมจะทำสิ่งนี้
If I were allowed.
ถ้าผมได้รับอนุญาต
She worked so hard
หล่อนทำงานหนักมาก
That she fell ill.
จนกระทั่งล้มป่วย
He was informed
เขาได้รับรายงาน
That I had been working here.
ว่าผมได้ทำงานอยู่ที่นี่มาตลอด
John succeeded
จอห์นประสบความสำเร็จ
Because he worked hard.
เพราะเขาทำงานอย่างจริงจัง

(กริยาในประโยคทั้ง 2 ที่กล่าวมานี้จะเห็นว่าใช้ Tense เป็น Past ด้วยกันตลอดเวลา จึงถือได้ว่าเป็น Sequence of Tense)

ข้อยกเว้น


1.1) ถึงแม้ประโยค Main Clause จะเป็น Past Tense แต่ถ้าประโยค Subordinate Clause มีข้อความบ่งถึงกริยาอาการที่เป็นความจริงตลอดไป ก็ให้ใช้ Present Tense ได้ เช่น

Main clause
Subordinate clause
The teacher told us
ครูบอกเรา

That the earth moves round the sun.
ว่าโลกหมุนรอบดวงอาทิตย์
His illness showed him
ความเจ็บไข้ของเขาแสดงให้เขา
That all men are mortal.
ทราบว่ามนุษย์ทุกคนต้องตาย
The students were taught
นักศึกษากาได้รับการสอนมา
That honesty is the best policy.
ว่าความซื่อสัตย์เป็นนโยบายที่ดีที่สุด
1.2) ถึงแม้ Main Clause จะเป็น Past Tense แต่ถ้าประโยค Subordinate Clause มีข้อความบ่งถึงกิริยาอาการที่เกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ หรือเป็นปกตินิสัยในปัจจุบัน ให้ใช้ Present Tense ได้เช่น
Main Clause
Subordinate Clause
He told me
เขาบอกผม
That his son is industrious
ว่าบุตรชายของเขาเป็นคนขยัน
I said
ผมพูด
That my mother is fat.
ว่าแม่ของผมอ้วน
They were sorry to hear
พวกเขาเสียใจที่ได้ทราบ
That their boss has a bad temper.
ว่านายจ้างของเขามีอารมณ์ไม่ดี
He asked me
เขาถามผม
If I usually get up early.
ว่าปกติแล้วผมตื่นนอนแต่เช้าหรือไม่


1.3) ถึงแม้ Main Clause จะเป็น Past Tense แต่ถ้า Subordinate Clause เป็น Adjective Clause จะใช้ Tense อะไรก็ได้ก็แล้วแต่ใจความที่เหมาะสม เช่น
The man whom you see sitting there gave me a pen.

The man whom you saw just now gave me a pen.

The man whom you will see in a moment gave me a pen.

1.4) ถึงแม้ Main Clause จะเป็น Past Tense แต่ถ้าประโยค Subordinate Clause ขึ้นต้นประโยคด้วย than, as, as…………as, so…………as จะใช้ Tense ใดก็ได้ แล้วแต่ใจความที่ผู้พูดจะประสงค์ เช่น

He liked you better than he likes me.

He liked you better than he liked me.

He liked than he will like me.

เขาชอบคุณมากกว่าที่เขาชอบผม

เขาชอบคุณมากกว่าที่เขาชอบผมแล้ว

เขาชอบคุณมากกว่าที่เขาจะชอบผม

He did it as he usually does.

He did it as he had promised.

He did it as I will do.

เขาทำมัน เช่นเดียวกันกับที่เขาทำอยู่ตามปกติ

เขาทำมันเช่นเดียวกันกับที่เขาได้ให้สัญญาไว้

เขาทำมันเช่นเดียวกับที่ผมจะทำ



Last year I worked as hard as I do now.

Last year I worked as hard as he died.

Last year I worked as hard as I shall do next year.

ปีที่แล้วผมทำงานหนักเช่นเดียวกับที่ผมทำอยู่เดี๋ยวนี้

ปีที่แล้วผมทำงานหนักเช่นเดียวกับที่ผมเคยทำมาแล้ว

ปีที่แล้วผมทำงานหนักเช่นเดียวกับที่ผมจะทำปีต่อไป

Last year she was not so rich as she is now.

Last year she was not so rich as she was.

Last year she was not so rich as she will be soon.

ปีที่แล้วหล่อนไม่รวยเท่ากับที่หล่อนรวยอยู่ขณะนี้

ปีที่แล้วหล่อนไม่รวยเท่ากับที่หล่อน(เคย)รวยมาแล้ว

ปีที่แล้วหล่อนไม่รวยเท่ากับที่หล่อนจะรวยในเร็วๆนี้

1.5) ถึงแม้ Main Clause จะเป็น Past Tense แต่ถ้าในประโยค Subordinate Clause เป็นข้อความอยู่ใน “เลขใน” (คือ Direct Speech) จะใช้ Tense อะไรก็แล้วแต่ความเหมาะสม เช่น

He said, “I have lived here for many years.”

เขาพูดว่า ผมได้มาอยู่ที่นี่เป็นเวลาหลายปีแล้ว

She said, “I am very happy to see you.”

หล่อนพูดว่า ดิฉันมีความสุขที่ได้พบคุณ

Daeng said to me, “I will do this for you.”

แดงพูดว่า ผมจะทำสิ่งนี้เพื่อคุณ

2)ถ้า Main Clause เป็น Present Tense หรือ Future Tense ประโยค Subordinate Clause จะเป็น Tense อะไรก็ได้ แล้วแต่ความเหมาะสมที่ผู้พูดพึงประสงค์ เช่น

Main Clause
Subordinate Clause
I know or
I shall know
That he can read this book.
That she is working hard.
That they will arrive tomorrow.
That he has sent it already.
That he wrote to his friend.
That John had done it before you did.


ผมรู้ (หรือผมจะรู้ว่า) เขาสามารถอ่านหนังสือนี้ได้ ฯลฯ เป็นต้น

3)ในกรณีที่ประโยคตาม (Subordinate Clause) เป็นประโยคแสดงความมุ่งหมาย (คือมีกริยาช่วย may, might) ให้ทำได้ดังต่อไปนี้

3.1) ถ้าประโยค Main Clause เป็น Present Tense หรือ Future Tense ประโยค Subordinate Clause ต้องใช้ May + กริยาช่องที่ 1 เช่น

He work hard so that he may not fail.

เขาทำงานอย่างหนัก ก็เพื่อว่าจะไม่ต้องประสบความล้มเหลว

She will study hard so that she may not fail in her examination.

หล่อนจะ (ตั้งใจ) เรียนอย่างจริงจัง เผื่อว่าหล่อนจะไม่ต้องสอบไล่ตก

Anne comes here so that she may meet her friend.

แอนมาที่นี่เผื่อว่าจะได้พบเพื่อนของเธอ

3.2) ถ้าประโยค Main Clause เป็น Past Tense ประโยค Subordinate Clause (ที่แสดงความมุ่งหมาย) ต้องใช้ might + กริยาช่องที่ 1 เช่น
He came so that he might see his father.

เขามาเผื่อว่าเขาจะได้พบกับพ่อของเขา

I helped him so that he might live.

ผมช่วยเขาเผื่อว่าเขาจะได้มีชีวิตอยู่ (ต่อไป)

4)ถ้าประโยค Subordinate Clause ขึ้นต้นด้วย lest (แปลว่า “เพื่อว่า.....จะได้ไม่”) กริยาของประโยคมันเองต้องใช้ Should + กริยาช่องที่ 1 เสมอ ทั้งนี้โดยไม่ต้องคำนึงว่า ประโยค Main Clause (ประโยคหลัก) จะเป็น Tense อะไร เช่น

He goes lest he should see me.

เขาไปเผื่อว่าเขาจะได้ไม่เห็นผม

She escaped lest she should work hard.

หล่อนหนีไปเผื่อว่าหล่อนจะได้ไม่ทำงานหนัก

David will go lest he should do this work.

เดวิดจะไปเผื่อว่าเขาจะได้ไม่ทำงานนี้

สุ่มบทความภาษาอังกฤษจากบทความทั้งหมด